หนัง ซับไทย
หนัง ซับไทย บุปผชาติผลิรัก The Flowers Are Blooming 2021 ซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้เรื่องใหม่ของสวี่เจียฉี รวมทั้งหวงเซิ่งฉือ ฉายแล้วนะคะทาง iQIYI บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับงานช่างฝีมือ การก่อนสร้างอดีตสมัยจะล้ำมากแค่ไหนต้องไปตามมองกัน ผู้แสดง สวี่เจียฉี รับบท องค์หญิงเจาเหอ (เฉินหข้างล่างเยว่) มีพี่ชายเป็นฮ่องเต้ที่แว่นแคว้นต้าเซียว คุณสมบัติสมบูรณ์ทุกด้านทว่านางกลับพอใจงานด้านสถาปัตยกรรมมาก จึงปลอมตัวเป็นเฉินหข้างล่างเยว่เพื่อมาเป็นรองช่างฝีมือของเรือนมู่อวี่ หวงเซิ่งฉือ รับบทบาท หลี่ชิงเฟิง ผู้ครอบครองเรือนมู่อวี่ ช่างฝีมือประจำเรือน ข้างหลังรับเฉินหด้านล่างเยว่ รวมทั้งรับสมัครคนงานอื่นๆกรุ๊ปพวกเขาก็เปิดกิจการรับก่อสร้างงานต่างๆ
เรื่องย่อ
เวลาที่แว่นแคว้นต้าเซียวบางทีก็อาจจะจำต้องหลีกเลี่ยงการศึกด้วยการแต่งงานเชื่อมสโมสรกับดินแดนกับประเทศเป่ยโจว องค์หญิงเจาเหอ ที่แว่นแคว้นต้าเซียว ซึ่งประทับใจงานด้านสถาปัตยกรรมก็ได้บินหนีออกมาจากวังหลวง ปลอมตัวเป็นเฉินหล่างเยว่เพื่อมาร่วมกรุ๊ปช่างฝีมือของเรือนมู่อวี่ ระหว่างทางได้แวะบ่อนพนันหอพักพันชั่งน้ำหนัก เพื่อดูงานออกแบบ หนัง ซับ ไทย ทำให้นางได้เจอกับหลี่ชิงเฟิงแล้วก็ได้คัดค้านกับเขาประเด็นการดีไซน์โดยไม่รู้จักว่าเขาเป็นผู้ออกแบบหอพันชั่งน้ำหนักแห่งนี้และก็เป็นเจ้าของเรือนมู่อวี่
หนังใหม่ รีวิวหนัง วิภาควิจารณ์หนัง The Unforgivable มลทิน
มาถึงคิวของอีกหนึ่งหนังดราม่าที่หมายตาจะมาล่ารางวัลอีกเรื่องของเน็ตฟลิกซ์ในปีนี้ นี่คือ “The Unforgivable” (ตราบาป) หนังที่ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงมาจากมินิซีรีส์มีชื่อ ที่เป็นการสะท้อนปัญหาสังคมอย่างจัดจ้า และก็ยังถือได้ว่าเป็นการคัมแบ็กคืนสู่สังเวียนของดาราหญิงผู้ครอบครองรางวัลออสการ์อีกทีในรอบ 10 ปีของคุณ เพียงแค่ผลในในที่สุดนั้น… หนัง ซับไทย netflix มันเป็นความเพียรพยายามเหลือเกิน
The Unforgivable เล่าราวของ รูธ สลาเตอร์ หญิงที่พึ่งจะพ้นโทษออกจากเรือนจำ หลังจากที่ต้องโทษคุมขังฐานฆ่าเจ้าพนักงานเสียชีวิต เป็นอันตรายช่วงเวลาถึง 20 ปี แต่การกลับมาดำรงชีวิตในสังคมที่ไม่ยอมยกโทษเรื่องร้ายในอดีตของเธอ ภายหลังโดนตัดสินอย่างหนักจากที่ที่เธอเคยเรียกว่าบ้าน ความมุ่งหวังเดียวที่จะไถ่บาปนี้ได้คือการออกค้นหาน้องสาวที่เธอเองจำใจต้องทิ้งไป
หนังหัวข้อนี้เป็นการปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงผลิตมาจากไม่นิซีรีส์เรื่องดังจากอังกฤษที่ชื่อเดียวกัน หนัง netflix ซับ ไทย โดยในเวอร์ชั่นนี้ได้ผู้กำกับหญิงชาวเยอรมัน “โนรา ฟิงไชต์” มาดูแลงานสร้างให้ ผ่านฝีมือการดัดแปลงบทของ 3 นักเขียน “ปีเตอร์ เคร็ก” (จาก The Batman), “ฮิลลารี ไซต์ซ” (จาก Eagle Eye) แล้วก็ “คอร์เทเนย์ ไมล์ส” (จากซีรีส์ Mindhunter) ไตร่ตรองออกมาเป็นหนังดราม่าระทึกสุดเข้มข้นที่ทำออกมาเจริญตามมาตรฐาน
ถึงกระนั้น The Unforgivable ก็ถือได้ว่าเป็นหนังดราม่า ที่ยังเต็มไปด้วยกลเม็ดเด็ดพรายที่ธรรมดาๆกับสูตรสำเร็จพื้นเพที่มิได้มีความแปลกใหม่อะไรก็ตามเลย เปลี่ยนออกมาเป็นหนังดราม่าที่ออกจะจืดจาง รวมทั้งเดินเรื่องไป ตามหลักการทั่วๆไป เพียงเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การเล่าเรื่องรวมทั้งปมต่างๆ ของหนังยังจัดได้ว่าอยู่ในเซฟโซน เพราะว่าเค้าเรื่องนำพาไปได้ด้วยดีอยู่แล้ว
เรื่องย่อ: รุ่งเช้าวันหนึ่ง ในศูนย์รับเรื่อง 911 โดยโอเปอเรเตอร์ โจ เบย์เลอร์ เพียรพยายามช่วยชีวิต ผู้ที่โทรเข้ามาซึ่งตก อยู่ในอันตรายร้ายแรง แต่ว่าเขากลับได้พบว่าอะไรๆไม่เป็นไปเหมือนอย่างที่คิด และยิ่งถลำดำตรงกับการช่วยชีวิตคนเบื้องหน้าอย่างหลงทาง ในช่วงเวลาที่เวลารอดตายของเหยื่อก็ขมวดเข้ามาทุกครั้ง
น่าจะเป็นการหวนคืนมาทำหนังแนว ดราม่าตำรวจที่เคยสร้างชื่ออีกรอบของผู้กำกับผิวดำคนที่ใครๆก็รู้จักอย่าง อังตอน ฟูกัว (Antoine Fuqua) ที่หลายคนก็น่าจะยังคงคิดออกดีอย่าง ‘Training Day’ (2001) หรือเรื่องข้างหลังหน่อยก็ ‘Brooklyn’s Finest’ (2009) แล้วก็น่าจะเป็นทีแรกที่เขามาทำหนังลงบริการสตรีมไม่งชื่อดังอย่างเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งก็เป็นความร่วมมือที่น่าสนใจทีเดียว
แม้ว่าจะน่าเสียดายเล็กน้อยที่ฟูกัวไม่ได้ทำหนังออริจินัลลงเน็ตฟลิกซ์ หนัง ซับไทย แม้กระนั้นเป็นนำหนังเดนมาร์กชื่อเรื่องเดียวกันของ กุสตาฟ โมลเลอร์ (Gustav Möller) เมื่อปี 2018 มารีเมก แถมบางบุคคลยังอาจคิดไปถึงหนังอย่าง ‘The Call’ (2013) ที่ ฮัลลี เบอร์รี (Halle Berry) นำแสดงในบทพนักงานประจำสายด่วน 911 เข้าเสียอีก
แต่ว่าเอาเข้าจริงเวลาที่ ‘The Call’ จะนำเสนอในแนวทาง ธริลเลอร์แจ่มชัดมีการตัดสลับเหตุการณ์คู่ขนานในที่ผู้แสดงนำปฏิบัติงานและด้านนอกที่เป็นจุดเกิดเหตุ ‘The Guilty’ กลับเด่นที่ธีมที่ปรารถนาเล่า โดยเอาลักษณะของดราม่าธริลเลอร์มาเป็นเครื่องแต่งตัวเสียมากกว่า และความดีเด่นที่สุดก็คงจะไม่พ้นการที่หนังท้านักแสดงและผู้ชม ด้วยการให้เห็นภาพแค่ในห้องทำงานของผู้แสดงนำเป็นหลักโดยแทบไม่เคยตัดภาพออกไปยังโลกด้านนอกเลยด้วย
หลี่ชิงเฟิง ผู้ครอบครองเรือนมู่อวี่ กำลังประสบปัญหาทางการเงินสำหรับในการประกอบกิจการช่างฝีมือ มีเจ้าหนี้กว่า 30 คนมาตามทวงเงินถึงหน้าเรือน เขาก็เลยต้องรีบหารายได้ด่วนจึงได้เข้าร่วมงานโยนลูกแพรเลือกคู่ของคูณหนูจ้าวอี้หนิง เชื้อสายจ้าวซึ่งเป็นคนมั่งคั่งอันดับที่หนึ่งแห่งหลินอัน เพื่อหาทางเข้าหานางหวังคุยหัวข้อการร่วมหุ้นกิจการงานช่างฝีมือ แรงวอี้หนิงหลงรักหลี่ชิงเฟิงตั้งแต่แรกเจอ นางก็เลยตกลงร่วมลงทุนด้วย เรือนมู่อวี่ก็เลยได้กลับมาเปิดกระทำอีกรอบ
ในช่วงเวลาที่องค์หญิงเจาเหอมารอผู้อาวุโสหลี่ชิงเฟิงที่เรือนมู่อวี่ นางได้เผลอทำว่าวไม้ของเขาพัง เมื่อหลี่ชิงเฟิขี้เหนียวลับมาเห็นเข้าเขาก็โกรธนางมาก แต่เมื่อใจเย็นลงแล้วได้ถามจึงทราบดีว่านางมาสมัครเป็นช่างฝีมือ เนื่องแต่กิตติศัพท์เรือนมู่อวี่ไม่ค่อยจะดีกลัวคนไม่กล้ามาสมัคร เขาจึงฝืนใจรับนางให้เป็นรองช่างฝีมือไว้ก่อน เรื่องการงานแล้วก็ความรักของทั้งสองจึงได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่นั้น ซึ่งเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไปติดตามต่อได้ทาง iQIYI นะคะ ฉายทุกๆวันอาทิตย์-พฤหัสบดี เวลา 19:00 น
แน่นอนว่าความเด่นของหนังก็คือการแคสติ้งดาราได้อย่างน่าดึงดูด เพราะว่านี่เป็นการหวนคืนบทดราม่าหนักๆอีกครั้งของ “แซนดร้า บูลล็อก” ที่ถือได้ว่าเป็นการแสดงที่น่าประทับใจและท้าในอาชีพของเธออีกหนึ่งเช่นเดียวกัน เพียงโชคร้ายที่การถ่ายทอดและการเล่าเรื่องของหนังนั้น ยังลำดับออกมาได้ไม่น่าสนใจเท่าที่ควร จึงทำให้สุดท้ายแล้วผู้แสดงนี้ที่ทำออกมาได้มิติ แล้วก็กลับรู้สึกเหือดแห้งผิวเผินไปๆมาๆกเสียหน่อย
เหมือนกันกับ ตัวละครสมทบต่างๆ ที่เสริมทัพเข้ามาในเรื่อง ล้วนเป็นดารา หนังชั้นเลิศ ไม่ว่าจะเป็น “ไวโอลา เดวิส”, “วินเซนต์ โดโนฟริโอ้”, “จอน เบิร์นธอล” หรือ “ลินดา เอมอนด์” ต่างเป็นติดอยู่แรกเตอร์ที่ทำออกมาได้แค่เพียงดาดดื่น ไม่ค่อยสร้างมิติที่สะดุดตาออกมาเท่าไหร่ พวกเขาก็ทำแค่เพียงหน้าที่นักแสดงที่ดีในส่วนของตนออกมาแค่นั้น แต่ว่ายังไม่ได้ช่วยส่งเสริมความทรงพลังให้กับหนังแต่อย่างใด
เอาเป็นในรูปภาพรวมแล้ว The Unforgivable
อาจจะเป็น หนังดราม่า หนัง ซับไทย ที่มาเพื่อปฏิบัติภารกิจ หวังรางวัล ที่บางครั้ง อาจจะบากบั่นแล้ว ก็หวังเยอะเกินไป ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงเป็นเพียงแต่หนังดราม่าที่ให้ความรู้ ความเข้าใจ สึกเฉยๆ เพียงแต่เรื่องหนึ่ง การที่หนังเล่าเรื่องแบบฉบับมินิซีรีส์น่าจะลึกซึ้งและครอบคลุมมากกว่าดัดแปลงมาเป็นเวอร์ชั่นหนัง ลำดับการเล่าก็มานะบิ้วท์ แล้วก็ใส่กิมไม่กลูกเล่นเข้าไป แต่กลับยังมอง ไม่ราบรื่นรวม ทั้งลื่นไหลก้าวหน้า เพียงพอที่จะเข้าเฉียดรางวัลสักเท่าไหร่
ทุกอย่างที่พวกเราได้รับรู้ จะผ่านเสียงการสนทนาที่พวกเราต้องจินตนาการ เอาเองว่าปลายสายจะมีลักษณะท่าทางอย่างไร มีความข้องเกี่ยวแบบใดกับผู้แสดงนำ รวมทั้งในช่วงเวลานี้เหตุการคับขันนั้นดำเนิน ไปยังไงแล้ว โดยทั้งนี้ตัวช่วยของเราสำหรับเพื่อการรับรู้เรื่องราวก็มีเพียงแค่สีหน้าท่าทาง อารมณ์น้ำเสียงของตัวเอกเท่านั้น
ความท้าที่จำเป็น ต้องหามหนังเพียงผู้เดียวแบบนี้ น่าจะเป็นของโปรดสำหรับนักแสดงสายความสามารถอย่าง เจก จิลเลนฮาล (Jake Gyllenhaal) เลยทีเดียว ด้วยก่อนหน้าไม่นานเขาก็พึ่งมีผลงานคุณภาพดีร่วมกับฟูกัวมาแล้วในหนังหมัดมวยดราม่าเรื่อง ‘Southpaw’ (2015) เพียงพอมาเรื่องนี้เขาจำต้องรับบทบาท โจ เบย์เลอร์ ตำรวจที่มีปัญหาชีวิตบางสิ่งบางอย่างกระทั่งทำให้เขามองคร่ำเคร่งราวกับคนสติแตกอยู่ตลอดเวลา
ความกระวน กระวายใจจนกระทั่ง ระรานเอานิสัยแย่ๆใส่เพื่อน ผู้ร่วมการทำงาน รวมทั้งคนรอบข้าง ทำให้เขามองเป็นตัวละครตำรวจสีเทาๆที่เรายังไม่รู้เรื่องว่าเขาทำผิดพลาด ในชีวิตอะไรมา ซึ่งหนังจะค่อยๆ เปิดเผย ให้พวกเราทราบเรื่องราวของเขาเยอะขึ้นเรื่อยๆ ไป กับสถานการณ์สายหญิงสาวที่โทรมาร้องไห้วิงวอนจากการเช็ดกลักพาตัว ที่ยิ่งเรื่องเดินไป ข้อมูลยิ่งเพิ่มมากขึ้นและความร้ายแรงของคดีก็ยิ่งน่าหวาดหวั่นขึ้นด้วย เพียงพอผสมกับความไม่นิ่งขาดสติของตัวเบย์เลอร์เข้าด้วยแล้ว มันก็ยิ่งทำให้เหตุการณ์ยิ่งย่ำแย่ ลงทุกที
รวมทั้งการที่ผู้ชม (รวมทั้งเบย์เลอร์) จำต้องคิดไขเหตุการณ์ผ่าน เพียงเสียงบอกต่างๆทางโทรคำศัพท์ เพียงแค่นั้น มันก็เลยเป็นรสชาติใหม่ๆสำหรับหนังแนวสอบสวน ที่เอาลูกเล่นนี้มาสนองตอบต่อธีมหรือสาระที่อยากได้เน้นย้ำได้อย่างน่าสนใจ น่าเสียดายเพียงว่าการคลี่คลายคดีกับการคลายเงื่อนในใจของเบย์เลอร์ที่เป็นธีมใหญ่ของเรื่องมันไม่ได้สอดรับกันนัก ซึ่งมันก็พอเพียงแถให้ได้ แต่ว่าถ้าเกิดเกิดเรื่องเดียวกันสะท้อนซึ่งกันและกันชัดๆมันจะงามกว่านี้แน่ๆ