spider-man 3
spider-man 3 สำหรับ “หน้าที่ของนักแสดง” ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนของผู้แสดงนำ เหล่าวายร้ายต่างๆถูกเฉลี่ยบทจนกระทั่งเกิดความสมดุลมากมาย แล้วยังมีการขโมยซีนกันเองแบบไม่ไว้หน้า เรียกว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างของเรื่องนี้ อีกทั้งมุกตลกขบขันล้อเลียนคุ้นเคย สร้างสีสันดึงอารมณ์สนุกสนานได้ตลอดเวลา ผู้ชมไม่เคยรู้สึกเบื่อมีจะมีบทสำหรับพูดอยู่มากก็ตาม แล้วก็ที่สุดของที่สุดเป็น ซีนที่จำต้องตัดอารมณ์ให้เกิดความสลดหดหู่ ดำดิ่งกับเรื่องเลว “ทอม ฮอลแลนด์” เล่นได้ดีมากมาย
สามารถทำให้ผู้ชมร้องไห้ตามได้ง่ายๆหรือแม้กระทั้งช่วงท้ายเรื่องก็ยังทำให้ผู้ชมกำเนิดความซาบซึ้งได้อีกในทางเนื้อเรื่องจำเป็นต้องบอกว่าเป็นการเล่าเรื่องต่อแบบโดยทันทีจากภาค2 ซึ่งตลอดแบบสามารถมองต่อได้แบบยาวๆเลยนั้นเองจุดนี้จำต้องขอดูเลยว่าจัดการออกมาเจริญมากมาย spider-man 3 มันย้ำความลื่นไถลไหลเนียนได้ทำให้พวกเรายังรู้สึกว่ามันเกิดเรื่องราวเดียวกัน ส่วนเนื้อหาก็เล่นในหลายๆมุมทั้งยังเรื่อง ความรัก การตัดสินใจต่างๆที่ทำให้ผู้แสดงนั้นโตขึ้นมากมาย และเล่นในมุมที่ภาคก่อนๆนั้นค่อนข้างจะเบา
แต่ครั้งนี้ทำได้น่าดึงดูดจัดเต็มมากมายอีกทั้ง ครอบครัว หรือ สหายๆของตัว TOM เองด้วยเช่นกัน ซึ่งบางทีอาจจะเล่าแบบเรียบมิได้มีอะไรสลับซับซ้อนเนื่องจากด้วยเนื้อหา นักแสดงเยอะๆเล่าอย่างงี้บางครั้งก็อาจจะทำเป็นยอดเยี่ยมนะครับ บางครั้งก็อาจจะไม่ได้มีหักมุมอะไรมากมาย แต่ก็เป็นหนังที่ย่อยง่าย เล่าได้น่าประทับใจกับผู้แสดงอย่างนี้ บางครั้งก็คิดว่าแอบบากบั่นใส่เข้ามาเอาใจแฟนคลับเยอะไปนิดจนบางจุดไม่ต้องใส่มาก็มิได้ส่งผลกับเรื่องราวมากเท่าไรนักโดยภาพรวม
‘Spider-Man : No Way Home’
ยังคงรักษามาตรฐานของหนังฮีโรในต้นแบบของ Marvel ได้อย่างครบถ้วน แต่ว่านอกเหนือจากหนังหัวข้อนี้จะเป็นหมุดหมายสำคัญของการเดินทางสู่มัลติเวิร์สอย่างเต็มกำลังแล้ว spider-man3 หนังประเด็นนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นหนังที่แฟนบอย สไปเดอร์-แมนไปดูอย่างไรก็ไม่ผิดหวังขอรับ เพราะนอกจากเรื่องราวที่โตขึ้นแล้วก็การที่พวกเราจะได้เห็นความก้าวหน้า และก็จังหวะหัวเลี้ยวหัวต่อชีวิตของปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ ที่เปลี่ยนเป็นซูเปอร์ฮีโรแบบสุดกำลัง และเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนมากมายๆหน้าที่ของตัวละครของเรื่องนี้หลักๆปีเตอร์ ปาร์คเกอร์
ครั้งนี้เขาจะต้องอยู่ระหว่างวัยรุ่นแล้วก็วัยผู้ใหญ่ เขาบางครั้งก็อาจจะจำต้องตัดสินใจพลั้งเผลอ แต่ความมีศีลธรรมของเขานั้นก็ได้พาเขาไปตรวจสอบรากของตัวเอง มีมิติและก็อารมณ์แท้จริงจังมากเพิ่มขึ้นอย่างเข้มแข็ง ร่วมกับ เอ็มเจ แฟนสาวที่คอยปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือเขาทั้งหัวใจและการพิทักษ์จักรวาล ถึงแม้เธอจะไม่ได้มีบทบาทอะไร แม้กระนั้นด้วยเสน่ห์ความหน้าเฉยแม้กระนั้นใจดี น่าจะทำให้ทุกคนตกหลุมรักและเอาใจช่วยความเกี่ยวข้องของคุณกับปีเตอร์ เน็ด เพื่อนสนิทของปีเตอร์ที่ได้โชว์ของอย่างมากด้วยความเซอร์ไพรส์แบบว้าวทั้งโรง และก็คอยเรียกเสียงฮาเหมือนทุกคราว ป้าเมย์ ผู้กระทำหน้าที่คอยผลักดันให้ปีเตอร์ช่วยผู้คนอย่างเต็มที่ ร่วมกับแฮปปี้
เพื่อนเกลอของโทนี่ สตาร์ก ที่มาเอาฮาแต่ก็มีความดราม่าแบบเดียวกันในส่วนของตัวละครสมทบก็มากันอย่างแน่น ดร. สตีเฟ่น สเตรนจ์ ที่มารับหน้าที่พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นให้กับปีเตอร์ โชว์ความเก๋าในพลังอำนาจและก็ความดุเดือดแม้กระนั้นก็มีมุมกวนใจ แม้ว่าจะออกไม่มาก แม้กระนั้นก็ถือว่าลงตัวแล้วสำหรับเรื่องราวที่จำเป็นต้องเทไปให้กับตัวร้ายจากจักรวาลอื่น อีกทั้ง ดร.ออคโทเวียส มนุษย์หนวดปลาหมึกที่มาโดนรังแกโดยปีเตอร์ แต่เขาก็มีมุมของความเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ได้จิตใจร้ายสุด นอร์แมน หรือ กรีน กอบลิน จอมคนร้ายในชุดเขียวผู้มาพร้อมกับระเบิด
มาในบทที่แสนสลับซับซ้อนซึ่งสามารถข่มขู่ปีเตอร์ให้สะท้าน อิเลคโตร มนุษย์กระแสไฟฟ้าผิวดำที่ต้องการจะครองอำนาจ แซนด์แมน มนุษย์ทรายที่จู่โจมปีเตอร์ มีเงื่อนเล็กๆแม้กระนั้นก็มิได้สำคัญอะไรมากมาย รวมทั้งในที่สุด ลิซาร์ด ครึ่งมนุษย์ครึ่งกิ้งก่าที่บทคงจะน้อยสุด แต่ว่าก็โหดไม่แพ้กันเลย
และไม่ว่าคุณจะมีพื้นเพเกี่ยวกับคอมิกส์มาก่อนหรือไม่ คุณอาจจะรู้สึกชื่นชอบหรือขัดใจหนังสไปเดอร์-แมนเวอร์ชันดั้งเดิมขนาดไหน หรือบางทีอาจจะแค่ต้องการดูหนังแอ็กชันมันๆในตอนวันหยุดปีใหม่ หนังหัวข้อนี้ก็พูดได้ว่าตอบโจทย์ได้หมด ทั้งยังมุกฮาจังหวะแดนนรก เรื่องราวดราม่าสุดสะเทือนขวัญจนกระทั่งน้ำตาซึม แล้วก็เซอร์ไพรส์ชวนกรี๊ดที่สปอยล์มิได้แม้แต่สักแอะ
พูดได้ว่าหนังประเด็นนี้เป็นการเปิดฉากสู่มัลติเวิร์สอย่างสุดกำลัง spider-man 3 ที่ถึงแม้ว่าจะจะเป็นแฟนบอย หรือไม่ใช่ก็ตาม ก็คงจะได้ฮาแตก เฮลั่น น้ำตาไหล อ้าปากหวอไปกับเซอร์พงพีส์มากมาย แม้กระนั้นจำต้องเข้าไปดูในโรงแค่นั้นครับ ถึงจะได้ความรู้สึกนี้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย อ่านหรือมองสปอยล์อย่างไรก็สู้ไม่ได้หรอกเรื่องสำคัญของเรื่อง ง่ายๆได้ใจความ พลังอันยิ่งใหญ่มาพร้อมความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง เป็นสิ่งที่ปีเตอร์ ปาร์คเตอร์ MCU ได้เรียนรู้ที่จะเป็นสไปเดอร์แมนอย่างแท้จริง ว่าเขานั้นยังหวังพึ่งคนรอบตัวและประดิษฐกรรมสิ่งอัศจรรย์มากเกินไปกระทั่งมันย้อนกลับมารังแกคนรอบข้าง
รวมทั้งผลการทำนั้น เขาควรเป็นคนจัดการ ถึงแม้เขาจะเพียรพยายามปัดความรับผิดชอบสำหรับเพื่อการคุ้มครองหรือแม้กระทั้งช่วยเหลือผู้คนที่เขาไม่เต็มใจ มันก็คือสิ่งที่เราทำเมื่อช่วยผู้คน เรานั้นช่วยทุกคน แต่ครั้งคราวก็จำเป็นต้องเตรียมตัวเตรียมใจรับมือเสมอว่า บางทีมันก็มิได้ทำให้อะไรดียิ่งขึ้น แต่อย่างน้อยพวกเราก็ได้ช่วยให้เขานั้นไม่ต้องตรากตรำยี่ห้อกตำอะไร เราทุกคนล้วนมีสิ่งที่จำต้องแลกเปลี่ยน
แต่มันจะไม่มีวันเสียเปล่า หรือบางครั้งบางคราวการต่อสู้ระหว่างคุณความดีและก็อธรรมมันก็อยู่ใกล้ตัว คอยหลอกล่อ รอสนับสนุนให้เรามองดูทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อสิ่งที่ตนเองอยาก แม้กระนั้นพวกเราก็จำต้องรำลึกเสมอว่ามันรังควาน มันโกยคนอื่นๆมั้ย ถ้าหากเป็นเช่นนั้นก็อย่าทำ ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงอดีตกาลหรือโชคชะตาได้ แต่การได้ลองอุตสาหะทำอย่างเต็มที่อย่างถึงที่สุด มันก็ไม่มีอะไรให้จำเป็นต้องเศร้าใจแล้ว
รวมทั้งขอให้ได้มอบโอกาสที่สองให้ได้ทดลองพิสูจน์มองใหม่สักหนึ่งครั้ง ให้พวกเราได้เห็นความพยายามของตัวเองและคนรอบข้างมากยิ่งกว่านี้ดาราหนังอันนี้เยอะมากและก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่บอกเลยว่าทำเป็นติดใจรวมทั้งความสามารถจัดเต็มยกตัวอย่างเช่นเดิมโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัว Green Goblin เองที่ได้ William Defoe กลับมาแล้วเราจะเห็นเลยว่า ประสิทธิภาพการแสดงแบบนี้พวกเราจะไม่เห็นมานานมากในตังร้ายของ Marvel เป็นการแสดงที่ไม่เหมือนกันแล้วก็ฝีมือมากจริงๆรวมทั้งบรรดาตัวหลัก เพื่อนพ้องๆดารานำชายก็รู้สึกว่างานแสดงดียิ่งขึ้น มิติมามากกว่าเดิม บางครั้งอาจจะด้วยบทที่ส่งทำให้หัวข้อนี้หลายๆส่วนนั้นจัดเต็มและพอดีที่สุดใน3 ภาคของ
SPIDERMAN สมัย TOM จริงๆหัวข้อนี้จำต้องขอดูทุกๆคน ทั้งข้างดี และก็ ข้างร้ายที่ทำได้ดีแม้ผู้แสดงจะเยอะแต่ว่าก็สามารถแบ่งในแต่ละส่วนได้ลงตัวครับผม ถึงแม้บางบุคคลบางทีก็อาจจะออกมาน้อยแต่ว่าก็ทำได้ประทับใจมากมายรวมทั้งมีตัวละครลับเยอะแยะ !
เรื่องย่อ สไปเดอร์แมน : โน เวย์ โฮม (Spider-Man: No Way Home) เป็นครั้งแรกที่ Spider-Man ไม่ต้องหลบซ่อนใต้หน้ากากอีกต่อไป และเขาไม่อาจจะแยกชีวิตในฐานะซูเปอร์วีรบุรุษออกมาจากชีวิตธรรมดาได้อีกต่อไป เมื่อเขาไปขอให้ด็อกเตอร์สเตรนจ์ช่วยเหลือ แม้กระนั้นมันกลับกลายเป็นวุ่นวายกว่าเดิม บังคับให้เขาต้องหาทางออกแล้วก็กล่าวโทษหมายของการเป็นสไปเดอร์แมน หนังเรื่องนี้จะแนะนำสิ่งที่เรียกว่า Multiverse ในจักรวาลมาร์เวลอย่างเป็นทางการ พร้อมๆกับวายร้ายจากทั้งยัง Spider-Man แล้วก็ The Amazing Spider-Man ก็จะมาปรากฎตัวด้วยเช่นกัน
สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม
อาจจะเป็นภาพยนตร์ปิดไตรภาคที่ทำให้ผมถูกใจทอม ฮอลแลนด์ รวมทั้งยังทำความเคารพให้กับภาพยนตร์สองฉบับก่อนของสไปเดอร์แมนที่เคยสร้าง แล้วก็บางครั้งก็อาจจะเป็นการปิดสามภาคที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผม (แล้วแต่ใครกันแน่จะคิดต่าง) รวมไปถึงเป็นการออกค้นหารากเหง้าของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ก่อนที่จะเป็นสไปเดอร์-แมน เพื่อนบ้านที่แสนดีในอนาคต
และมันอาจเป็นภาพยนตร์ที่ปีที่มอบความบันเทิงตลอดสองชั่วโมงครึ่งโดยไม่ทราบสึกเบื่อ แฟนเซอร์วิสสมเกียรติในจอภาพยนตร์ พร้อมโปรดักชั่นแบบจัดเต็มซีจี ฉากแอ็คชั่นสุดละลานตาและดุดัน การแสดงของผู้แสดงทุกคนที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างลงตัว ดนตรีประกอบสุดวิจิตรตระการตาแล้วก็ปลุกอารมณ์ spider-man 3 เนื้อเรื่องที่สนุก ชักชวนลุ้น ชวนติดตามการเจริญเติบโตของตัวละคร แล้วก็ข้อสรุปอันน่าประทับใจที่ยังไม่ใช่จุดหมาย แต่มันเป็นจุดเริ่มของหลายสิ่ง
ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์สไปเดอร์-แมนในอนาคต หรือภาพยนตร์จอมเวทย์มหารอยดำ ในมัลติเวิร์สมหาภัย ที่ได้ฉายแบบอย่างแรกในตัวเอนเครดิตในที่สุด ถ้าคนใดกันอยู่ก็จะได้มอง แม้กระนั้นผมไม่ค่อยไฮป์ เนื่องจากมันได้ปลดปล่อยลงออนไลน์ให้ผมดูตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว โดยหนังจะเล่าเรื่องราวของดร.สเตรนจ์ข้างหลังสถานะการณ์ในสไปเดอร์แมน กับการตัดสินใจที่จะต้องเลือก ร่วมมือกับสการ์เล็ต วิทช์จากซีรีส์ WANDAVISION ที่บอกเลยว่าปีถัดไปยาวแน่ๆสำหรับแฟนมาร์เวล โดยเหตุนี้อย่าพลาดภาพยนตร์สไปเดอร์แมนที่ดีเยี่ยมที่สุดภาคนี้โดยเด็ดขาดครับ
ล่าสุด Spider-Man: No Way Home สร้างประวัติศาสตร์แปลงเป็นหนังที่เปิดตัวสร้างรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ของค่ายมาร์เวล เป็นอันดับ 2 รองจาก Avengers: Endgame ซึ่งคนอเมริกันคนไม่ใช่น้อยแห่กันไปชวภาพยนตร์เรื่องนี้ในวันที่ออกฉายวันแรก โดยไม่กลัวการแพร่ระบาดของ โควิดโอมิครอน ด้วยเหตุว่ากลัวว่าจะถูกสปอยล์หนังมากยิ่งกว่า
สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม (อังกฤษ: Spider-Man: No Way Home) เป็นภาพยนตร์อเมริกันแนวซูเปอร์ฮีโรที่ออกฉายในปี คริสต์ศักราช 2021 ผลิตมาจากผู้แสดง สไปเดอร์-แมน ของ มาร์เวลคอมิกส์ ภาพยนตร์เป็นการสร้างด้วยกันระหว่าง โคลัมเบียพิคเจอร์สกับมาร์เวลสตูดิโอส์ และขายโดย โซนี่พิคพบร์สรีลีสสิง ภาพยนตร์เป็นภาคต่อของ สไปเดอร์แมน: โฮมคัมมิ่ง (2017) แล้วก็
สไปเดอร์แมน: ฟาร์ ฟรอม โฮม (2019) และเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 27 ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) ภาพยนตร์กำกับโดย จอน วอตส์ เขียนบทโดย คริส แม็กเคนนากับเอริก ซอมเมอส์ spider-man 3 รวมทั้งแสดงนำโดย ทอม ฮอลแลนด์ เป็น ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ / สไปเดอร์แมน ร่วมกับ เซ็นเดยา, เบเนดิกต์ คัมเบอร์กางตช์, จอน แฟฟโรว์, เจค็อบ บาเทลอน, เมริซา โทเม, เจ. บี. สมูฟ, เบเนดิกต์ หว่อง, วิลเลม เดโฟ, อัลเฟรด โมลิที่นาและเจมี ฟ็อกซ์ ในรูปภาพยนตร์ ปาร์คเกอร์ขอความช่วยเหลือจาก สตีเฟน สเตรนจ์ เพื่อทำให้ตัวตนที่เป็นสไปเดอร์แมนของเขาให้กลับมาเป็นความลับอีกที ซึ่งนำมาซึ่งการก่อให้เกิดช่องทางที่อันตราย
