Family ครอบครัว
Family ครอบครัว หนังครอบครัว Feel Good อบอุ่นหัวใจ วันหยุดมาทำกิจกรรมกันจ้ะ 10 หนัง Family ครอบครัว เกี่ยวกับครอบครัวที่มีมากกว่าเพียงแค่ความรื่นเริงใจ แม้กระนั้นยังมอบประเด็นชีวิตดีๆที่ทำให้ทุกคนอบอุ่นหัวใจข้างหลังดูจบอีกด้วยค่ะ
1.The Blind Side
แม่ผู้นี้มีแต่ว่ารักจริง เรื่องย่อ : The Blind Side ผลิตมาจากหนังสือชื่อ The Blind Side : The Evolution of a Game* โดย Michael Lewis ซึ่งเป็นชีวิตจริงอันน่าทึ่งของ Michael Oher ชายหนุ่มนักอเมริกันฟุตบอลอาชีพและครอบครัวบุญธรรมของเขา ชะตากรรมเล่นตลกเมื่อเขาบังเอิญได้มาเข้าเรียนสถานที่เรียนคริสเตียนค่ะ Family ครอบครัว อย่าง Briarcrest Christian School โรงเรียนที่เป็นของเอกชนของคนขาว ไมเคิลเป็นส่วนเกิน คุณครูทุกคนก็ล้วนแต่สั่นหน้าว่าอาจไปไม่รอด แต่ว่าแล้วครอบครัว Touhy โมเดลของอเมริกันดรีม (ที่สุดของความมั่งคั่ง พ่อบรรลุเป้าหมายในหน้าที่การงาน แม่ดำเนินงานตกแต่ง ลูกสาวเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ลูกชายก็เรียนมหาวิทยาลัยดี) ก็ได้ก้าวเข้ามาช่วยเหลือ คนไหนจะมีความรู้สึกว่าจากเด็กที่ไม่มีอนาคต เรียนได้เกรดศูนย์กว่า มีชีวิตอยู่โดยคิดได้ถึงเพียงว่ามื้อหน้าจะกินอะไร เปลี่ยนมาเป็นคนที่ทั้งประเทศอยากได้!
2.We Bought a Zoo (2011)
นักแสดง เบนจามิน คนทำข่าวและผู้เขียน ผู้ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับเพื่อการอุปถัมภ์ค้ำชูลูกสองคน ด้วยความมุ่งหวังที่จะกู้ความเป็นครอบครัวคืนมา เขาตกลงใจลาออกจากงานแล้วก็ไปซื้อบ้านบนพื้นที่ 18 เอเคอร์ ที่ตั้งอยู่นอกเมือง ซึ่งมาพร้อมกับของแจกสุดพิเศษ เป็นสวนสัตว์เก่าที่ยังมีสัตว์ป่าอยู่อีกเพียบ
3.Little Miss Sunshine (2006)
ครอบครัวคนขี้แพ้ที่จะชี้ให้เห็นว่าพวกเขาก็สามารถทำสิ่งยิ่งใหญ่ได้เช่นเดียวกัน! ผลงานเรื่องเยี่ยมที่พาเราไปพบกับครอบครัวของ ริชาร์ด ป๋าผู้เริ่มจะมีผลงานเขียนหนังสือเล่มใหม่ ที่จำเป็นต้องพา โอลีฟ บุตรสาวคนเล็กไปแข่งขันเวที Little Miss Sunshine ในปีนี้แบบกะทันหัน เขาก็เลยจะต้องหอบเอาสมาชิกในครอบครัวทั้งผอง ทั้ง ดเวย์น ลูกชายนิสัยแปลกของเขาที่เป็นจริงเป็นจังจะไม่บอกกับคนใดกันแน่ เมียที่รำคาญกับการจัดการกับปัญหาในบ้านเสมอๆพี่ชายจอมบ้าที่เพิ่งจะออกมาจากโรงพยาบาล รวมถึงคุณปู่นิสัยประหลาด
การเดินทางด้วยรถตู้เก่าๆของครอบครัวนี้กับการมุ่งหน้าเพื่อไปสู่เวทีประกวดนางงาม นำพวกเขาไปพบกับเหตุวุ่นวายเยอะแยะ แต่ในที่สุดพวกเขาก็ได้เรียนรู้สิ่งสำคัญว่า ถึงจะขี้แพ้ แม้กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้คุณค่าในตัวเองของพวกเขาลดลง ภาพเหล่าสมาชิกขึ้นไปเต้นกับลูกสาวตัวน้อยบนเวทีเป็นภาพที่บางครั้งอาจจะวุ่นวายในสายตาบุคคลอื่น แต่ว่าสำหรับพวกเขาแล้วนี่เป็นภาพครอบครัวที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่ผู้ชมจะจำไปพร้อมความยอดเยี่ยมของหนังประเด็นนี้
4. Wonder (2017)
ออกัสต์ พูลล์แมน เด็กวัย 10 ขวบที่เกิดมามีความผิดปกติของบริเวณใบหน้า มีหมวกนักบินอวกาศเป็นเซฟโซนของเขา จนวันหนึ่งที่จำต้องเข้าไปเรียนในสถานศึกษา ออกัสจำต้องปรับตัวแล้วก็ใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น แน่ๆกล่าวถึงใบหน้าของออกัสทำให้เขาถูกเพื่อนฝูงที่สถานที่เรียนแกล้งอยู่เสมอๆแม้ว่าจะถูกแกล้งเป็นประจำแต่ว่าในโรงเรียนก็มีเพื่อนฝูงที่ใจดีกับออกัส แล้วก็มีคุณครูที่เข้าใจผู้เรียนอีกหลายคน
ถึงแม้ออกัสจะเป็นตำนำของเรื่อง แต่ในเรื่องเชื่อมโยงเรื่องราวของผู้คนจำนวนมากเข้าด้วยกันไม่ว่าจะเป็นปมของพ่อแม่ พี่สาวที่อยู่ในช่วงไฮสคูลและก็ปัญหาของวัยรุ่นที่พยายามหาทางออกด้วยตัวเอง Wonder มิได้เล่าเพียงแค่ปัญหาของนักแสดงแต่ละตัว แต่ว่าระหว่างที่เรื่องราวดำเนินไป ทุกผู้แสดงมีการเติบโตแล้วก็ทำความเข้าใจจนถึงก้าวข้ามผ่านปัญหาต่างๆได้ ถือเป็นหนัง Feel good ที่ดูจบแล้วจะปลาบปลื้มหัวใจเป็นอย่างยิ่ง
5.Cheaper by the Dozen (2003)
พบ สตีฟ มาร์ติน ในผลงานครอบสุดได้รับความนิยม เรื่องราวของ ทอม เบเกอร์ (สตีฟ มาร์ติน) และก็ภรรยาของเขา เคท (บอนนี่ ฮันท์) เมื่อ ทอม เพิ่งได้งานใหม่ แถมเมียของเขาจำต้องเดินทางไปยังนิวยอร์คเพื่อโปรโมทหนังสือ ทอม จึงต้องรับหน้าที่ดูแลลูกๆอีกทั้ง 12 คนผู้เดียว!
หนังพาเราไปพบกับการแก้ไขปัญหาของเหล่าลูกๆที่มีตั้งแม้กระนั้นวัยเด็กสุดดื้อรั้น ไปถึงวัยรุ่นฮอร์โมนพุ่งพล่านที่ทำให้เราอดที่จะอมยิ้มและก็คอยลุ้นเอาใจช่วยกันไม่ได้ พร้อมแทรกเพียงแค่คิดดีๆเกี่ยวกับหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้เป็นผู้นำครอบครัวที่ทำทุกๆอย่างเพื่อลูก รวมถึงการมองเห็นค่าของสิ่งงามที่อยู่รอบกายในวันนี้
6.The Croods (2013)
เรื่องราวการเสี่ยงอันตรายยุคดึกดำบรรพ์ของครอบครัวแรกในโลกที่จำเป็นต้องออกเสี่ยงภัย เมื่อถ้ำที่พวกเขาแอบตัวจากอันตรายกลับถูกทำลายลงไปพร้อมกับส่วนอื่นของโลกใบนี้ ครอบครัวครู้ดส์ควรต้องพบกับโรดทริปแรกของครอบครัว กรั๊ก หัวหน้าครอบครัวที่ดังป๊ะป๋าทั่วๆไปโดยส่วนใหญ่ที่รอปกป้องภรรยารวมทั้งลูกๆทั้งยังสามอย่างเข้มงวด การเฝ้าระแวงจนเกินเหตุของเขาทำให้จะต้องคอยกันครอบครัวเอาไว้ภายในถ้ำให้ไม่เป็นอันตราย หายห่วงและก็น่ารำคาญสุดๆอุ๊กก้า ผู้มีความมั่นคงแล้วก็แบ่งแบกรับภาระครึ่งเดียวของกรั๊ก เธอเห็นด้วยกับแนวคิดของผัวที่ว่า “กลัวไว้แล้วจะดี การเปลี่ยนแปลงมีแต่ว่าแย่”
โดยความเอาจริงเอาจังของกรั๊กอยู่ที่การเอาตัวรอด แต่ยี้ป ต้องการใช้ชีวิต สิ่งที่คุณสอดรู้สอดเห็นเป็นโลกที่อยู่ด้านนอกถ้ำของพวกเขาที่ขัดกับกฎโบราณของบิดาคุณ เหตุการณ์มหาวิบัติทำให้พวกครู้ดส์จำเป็นต้องพบกับการเสี่ยงภัยสุดแปลก และทบทวนกรรมวิธีการใช้ชีวิตของพวกเขาใหม่ ซึ่งกลางทางพวกเขาได้เจอกับ กาย ผู้พาไปพบกับเรื่องแปลกใหม่ ก่อนที่จะทั้งปวงจะเดินทางไปสู่ประเด็นสำคัญสำหรับเพื่อการเปลี่ยนของโลกรวมทั้งครอบครัวตัวเองไปชั่วกัลปวสาน! ผู้ใดกันแน่ไม่รอดไม่ทราบ แม้กระนั้นครอบครัว (ฉัน) จำเป็นต้องรอด (ไม่สปอยล์หรอกเชื่อสิ) ชิโนะบุ ยะกุชิ กลับมาแล้ว พร้อมหนังตลกร้ายเรื่องล่า Survival Family
ว่ายังไงนะ ไม่รู้เหรอ ก็ผู้กำกับ Waterboys กับ Swing Girls นั่นไง
หายหน้าหายตาไป 2 ปี ภายหลังจากผลงานเรื่องล่าสุด Wood Job ! (2014) หนังตลกฟีลกู๊ดสาระดีที่แอบแฝงวิถีของการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน ซึ่งคนใดกันแน่ได้มองก็น่าจะที่หลงใหลนางเอก ไม่ใช่สิ คงจะหลงเสน่ห์หนังหัวข้อนั้นได้ง่ายๆ แล้วก็อาจจะต้องการที่จะไปสัมผัสกับบรรยากาศคันทรี่ฟีลกู๊ดในป่าประเทศญี่ปุ่นแบบในหนังกันบ้าง
มาโอกาสนี้ ชิโนะบุ ยะกุชิ กลับมากับ ‘ครอบครัวจำเป็นต้องรอด’ Survival Family ซึ่งเข้าโรงในญี่ปุ่นไปเมื่อเดือนกุมภาก่อนหน้านี้ ดูเหมือนจะเพิ่มดีกรีความเฮฮาร้ายขึ้นมาอีกหน่อย หลังจากที่หนังของพี่เขาห่างหายจากกลิ่นของ Black Comedy มาแสนนาน นับตั้งแต่งานหนังในทีแรกๆๆอย่าง Down the Drain (1993), My Secret Cache (1997), Adrenalin Drive (1999) ก่อนจะเปลี่ยนแปลงแนวมาทำภาพยนตร์ตลกฟีลกู๊ดย่อยง่ายที่ขายดีมากกว่าอย่าง Water boy (2001), Swing Girls (2004)
‘ครอบครัวจำเป็นต้องรอด’ เป็นเรื่องราวของครอบครัวชนชั้นกลาง 4 ชีวิต ที่ต้องเจอหน้ากับความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในชีวิต เมื่อวันหนึ่งกระแสไฟฟ้าเกิดหายไปจากโลก ส่งผลให้เครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆที่จำเป็นต้องอาศัยไฟฟ้าดับวูบไปตามกัน อาหารรวมทั้งน้ำแปลงเป็นของหายากและไม่สามารถแลกมาได้ด้วยสิ่งของมีค่า อุปสรรคเพียงเท่านี้ก็ถือว่ามากเกินพอที่จะมีผลให้สังคมป่วนปั่น สิ่งที่จำต้องทำเป็น back to origin เพื่อความอยู่รอด ทว่าไม่ใช่สำหรับตัวใครตัวมัน…
แต่ว่าจำเป็นต้องไปกันให้รอดอีกทั้งครอบครัว !
ได้เห็นพล็อตหนังอย่างงี้ ทำให้อดไม่ได้ที่จะคิดไปถึงแนวหนังจำเป็นต้องรอดทั้งหลายแหล่ ที่ว่าด้วยเรื่องราวการเอาชีวิตรอดหลากวิธีในสังคมที่แหลกเหลว บรรยากาศที่ไม่น่าไว้วางใจต่างๆนานาสำหรับในการเอาชีวิตรอดของผู้คน แต่ว่าบรรยากาศในหนัง ‘ต้องรอด’ ฉบับยะกุชิ ดูเหมือนจะผิดแผกไปจากบรรยากาศแบบหนังจำต้องรอดที่คุ้นตา ด้วยมุกขำขันที่แทรกมาเป็นระยะทำให้หนังมิได้มองเครียดราวกับตามเดิมทำกันมา ถึงกับขนาดหลุดขำในบางซีนเลยก็ยังมี แม้กระนั้นแม้กระนั้นในบางจังหวะที่ต้องตั้งใจจริง หนังก็ใส่อารมณ์กับผู้ชมอย่างอยู่หมัดกระทั่งเกือบจะปรับอารมณ์ไม่ทัน
Survival Family เป็นหนังสนุกสนานดูเพลินสาระดีมีเฮฮาและก็เต็มไปด้วยไดอะล็อกที่แสนจะเรียบง่าย แต่ในหลายๆประโยคก็แอบแฝงความหมายลึกซึ้งที่ทำเอาคนดูรู้สึกกระอักกระอ่วนใจไปด้วยพร้อม โดยยิ่งไปกว่านั้นหัวข้อหนักๆที่ว่าด้วยสิ่งสำคัญที่มนุษย์อย่างเราควรจะพิจารณา รวมถึงการพยายามทบทวนความหมายที่จริงของคำว่า ‘ครอบครัว’ กับคนดูอีกครั้ง